Doraemon Thai Wiki
Advertisement
Doraemon Thai Wiki
โดราเอมอน: ผจญภัยใต้สมุทร
โดราเอมอน,1983
ภาษาญี่ปุ่น: ドラえもん のび太の海底鬼岩城
Rōmaji: Doraemon: Nobita no Kaitei Kiganjō
ข้อมูลภาพยนตร์
กำกับโดย: Tsutomu Shibayama
ผลิตโดย: Soichi Besso
Tetsuo Kanno
เขียนโดย: ฟูจิโอะ เอฟ. ฟูจิโอะ
Motoo Abiko
วันเข้าฉาย: Flag of Japan 12 มีนาคม พ.ศ. 2526
ดนตรีโดย: Shunsuke Kikuchi
บทภาพยนตร์โดย: Sadayoshi Tominaga
ผู้ดูแลงานศิลป์: Goichi Kudo
เพลงประกอบ: เพลงเปิด: โดราเอมอน โนะ อุตะ (ドラえもんのうた)
เพลงปิด: ทะเลและพวกเรา (海はぼくらと)
จัดจำหน่ายโดย: Toho
สตูดิโอ: Shin-Ei Animation
Shaft
Studio Deen
ระยะเวลา: 95 นาที
ประเทศ: ญี่ปุ่น
Box Office: 1.00 พันล้านเยน
ก่อนหน้า
โดราเอมอน: ตะลุยแดนมหัศจรรย์
ถัดไป
โดราเอมอน: ท่องแดนเวทมนตร์

โดราเอมอน: ตะลุยปราสาทใต้สมุทร (のび太の海底鬼岩城 โนบิตะ โนะ ไคเท คิคันโจว) เป็น โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ลำดับที่ 4 เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2526 เรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยที่ใต้ทะเลลึก

เนื้อเรื่องย่อ[]

เพื่อน ๆ อยากจะออกไปตั้งแคมป์กันในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนี้ ทว่าไจแอนท์กับซึเนโอะก็อยากจะได้การตั้งแคมป์แบบแปลกใหม่ โดราเอมอนเลยพากันไปตั้งแคมป์ที่ภูเขาใต้ทะเลกันเลย แต่แล้วพวกเพื่อน ๆ ก็ต้องไปพัวพันกับการพบเจอกับเรือผีสิง รวมไปถึงค้นพบมนุษย์ใต้ทะเลลึก และทวีปมูที่หายสาบสูญไป

เนื้อเรื่องอย่างละเอียด[]

แผนการตั้งแคมป์[]

เกริ่นเรื่อง วันหนึ่งในฤดูร้อนมีการสำรวจใต้ทะเลของหน่วยงานหนึ่งและพบกับเรือผีสิง ที่บ้านของโนบิตะ โนบิตะ ชิซุกะ ไจแอนท์ และซึเนะโอะเถียงกันว่าปิดเทอมฤดูร้อนจะไปตั้งแคมป์ที่ไหนระหว่างทะเลกับภูเขา โดราเอมอนเลยเสนอว่าไปใต้ทะเลลึกที่มีทะเลให้เล่นน้ำ และมีภูเขาให้ปีน ทุกคนเลยตกลงและไปขออนุญาตคุณแม่ แต่โนบิตะคนเดียวที่ไม่ได้เพราะการบ้านยังไม่เสร็จ โนบิตะจึงโทรบอกทุกคนว่าขอเลื่อนไปก่อนจนกว่าการบ้านจะเสร็จ แต่ก็ทำไปได้เดี๋ยวเดียวก็หลับ ต่อมาโนบิตะทำการบ้านได้ไม่นานก็พักเพราะหัวจะระเบิด โดราเอมอนเลยต้องให้กำลังใจว่าเมื่อเสร็จแล้วจะมีแต่ความสบายใจ ทำได้ไม่นานก็หลับและโดราเอมอนก็ปลุกอีก โนบิตะเลยถอดใจไม่ไปไหนเลย โดราเอมอนคิดจะขอแต่ดูสีหน้าแม่ก็แสดงว่าไม่ได้ ซึเนะโอะที่ได้ยินข่าวเรือผีสิงเลยไปชวนไจแอนท์เพื่อไปขอร้องให้โดราเอมอนพาไปหาเรือผีสิง ส่วนชิซุกะมาถามว่าการบ้านเสร็จหรือยัง ซึ่งยังแทบไม่คืบหน้าเลย ทุกคนจึงต้องช่วยโนบิตะเพื่อที่จะไปตั้งแคมป์ได้ซะที สามวันต่อมาการบ้านจึงแล้วเสร็จ คุณแม่อนุญาตให้ไปตั้งแคมป์ได้ คืนนั้นมีเรือเดินสมุทรลำหนึ่งค้นพบเรือผีสิงที่มหาสมุทรแอตแลนติก

การตั้งแคมป์ของโดราเอมอนและเพื่อน ๆ[]

เนื่องจากข่าวการค้นพบเรือผีสิงทำให้เช้าวันนั้นคุณแม่เตือนว่าอย่าไปทะเลเลย แต่ก็ไม่ทันเพราะทุกคนไปกันหมดแล้ว โดราเอมอนเอารถบัคกี้ใต้น้ำออกมาเพื่อใช้ในการเดินทางใต้ทะเล เมื่อลงไปใต้ทะเลโดราเอมอนพบว่าลืมใช้แสงปรับสภาพเพื่อใช้ชีวิตใต้น้ำได้ 24 ชั่วโมง พวกเขาลงไปใต้ทะเลได้แล้ว เมื่อผ่านไหล่ทวีป ลาดทวีป จนผ่านร่องลึกก้นสมุทรมาก็ไปตั้งแคมป์กันที่ภูเขาลูกหนึ่งซึ่งสูงจากพื้นสมุทรสองพันเมตรและอยู่ใต้ผิวน้ำสองพันเมตร เนื่องจากใต้สมุทรแทบไม่มีสิ่งมีชีวิตโดราเอมอนเลยใช้ของวิเศษเพื่อเพาะพันธุ์สัตว์น้ำและเซลล์สาหร่ายและตั้งเต็นท์อพาร์ตเมนต์ เมื่อกางเสร็จโดราเอมอนชี้แจงวิธีการเข้าห้องน้ำ (เพราะถ้าพลาดของเสียจะไหลท่วม) และจากนั้นก็รับประทานอาหารกลางวัน เมื่อทานเสร็จแล้วพวกเขาก็ออกไปขับรถเพื่อเที่ยวใต้ทะเลลึก พวกเขาพบกับสัตว์ทะเลหน้าตาประหลาดมากมายโดยบัคกี้มีข้อมูลแค่บางส่วนเท่านั้น (ตัวหลัง ๆ พอถามไปไม่มีคำตอบ) จากนั้นภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดขึ้นพวกเขาจึงต้องออกห่างจากบริเวณนั้น ระหว่างที่หนีโนบิตะเห็นหมึกยักษ์ขนาดหลายสิบเมตร แต่ไม่มีใครเชื่อเขาเลยและบัคกี้ไม่หันกลับไปตามที่โนบิตะสั่งเพื่อความปลอดภัย เมื่อกลับมาถึงแคมป์พบว่าสาหร่ายและปลาที่เพาะไว้เมื่อเช้าโตแล้ว พวกเขาจะจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวหลังจากกลับมาถึงแล้ว และเสริมบรรยากาศโดยใช้หลอดไฟทำให้มืดและแคมป์ไฟใต้น้ำ หลังจากที่กินกันเสร็จแล้วซึเนะโอะเล่าเรื่องเรื่องสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเพื่อที่จะขอให้โดราเอมอนพาไป โดราเอมอนบอกว่าไม่พาไปที่น่ากลัวอย่างนั้น เพราะเขาต้องรับผิดชอบชีวิตทุกคน จากนั้นทุกคนก็ไปเข้านอน ในคืนนั้นเรือผีสิงแล่นผ่านมาบริเวณที่ตั้งแคมป์และผ่านไป

วันรุ่งขึ้น ชิซุกะตื่นเช้ามาให้อาหารปลา แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้เพราะไจแอนท์กับซึเนะโอะหายตัวไป ฤทธิ์ของแสงปรับสภาพเหลือแค่ชั่วโมงเดียวและสองคนนั้นออกไปก่อนหน้าสามชั่วโมง ทั้งสามเลยใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่ตามบัคกี้ไป เมื่อแสงปรับสภาพจะหมดฤทธิ์ไจแอนท์และซึเนะโอะหายใจไม่ออกและเห็นรอบข้างมืดมิด ทั้งสองตกจากบัคกี้ ส่วนเมื่อทั้งสามบินจนหมดเวลา โดราเอมอนคิดจะพังตัวเองไถ่โทษ แต่ก็ถูกห้ามโดยโนบิตะและชิซุกะ ต่อมาโดราเอมอนคิดได้ว่าใช้กระเป๋าส่งมาให้เอาประตูไปที่ไหนก็ได้ได้ โนบิตะโมโหที่โดราเอมอนเพิ่งจะคิดได้ ทันใดนั้นเกิดเสียงระเบิดจากที่ไกลลิบ จากนั้นโดราเอมอนเอาประตูไปที่ไหนก็ได้เพื่อไปหาไจแอนท์และซึเนะโอะ ที่นั่นพบว่าหินแตกเกลื่อนไปหมด แต่ไจแอนท์และซึเนะโอะรอดมาได้ ทั้งสองเลยโบ้ยความผิดให้กับบัคกี้ รถบัคกี้พิโรธโนบิตะและโดราเอมอนเลยคว่ำมัน ชิซุกะบอกว่าเครื่องยนต์ก็มีจิตใจนะ ทุกคนจึงกลับแคมป์ก่อน จากนั้นไปเหวทะเลมาเรียน่า คุณแม่ดูข่าวว่าเกิดภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดบ่อยครั้งแล้วกังวลโดราเอมอนกับโนบิตะว่าจะเป็นอะไรไหมเลยถามคุณพ่อว่าโดราเอมอนและเพื่อน ๆ จะเป็นอะไรไหม คุณพ่อบอกว่าไม่เกี่ยวอะไรกับภูเขาไฟหรอก

โดราเอมอนและเพื่อน ๆ ลงไปยังเหวทะเลมาเรียน่าซึ่งลึกที่สุดในโลก ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกกับการค้นหาสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ไจแอนท์กับซึเนะโอะพบเรือผีสิงที่เคยจมอยู่ที่อื่น ทุกคนยกเว้นโนบิตะเข้าไปสำรวจข้างในเรือ ในเรือพบโครงกระดูกของกัปตันเรือและมีบันทึกอยู่ ก็พบว่าเป็นเรือขนทองคำจากอินคามาล่ม ส่วนโนบิตะที่รออยู่ข้างนอกก็พบกับปลาประหลาดไล่ยิงใส่เขาโดยที่ในเรือไม่มีใครรู้เลย เมื่อทุกคนจะกลับแคมป์ก็พบว่าโนบิตะหายไปโดยไปซ่อนตัวอยู่ในทราย โนบิตะบอกทุกคนก็ไม่มีใครเชื่อ จากนั้นพวกเขาขึ้นบัคกี้กลับแคมป์ ซึ่งระหว่างทางมีหมึกยักษ์ตัวเดิมคอยเฝ้ามองอยู่

ถูกพาตัวไปทวีปมู[]

เย็นวันนั้นพวกเขาขึ้นมากินกันบนผิวน้ำและดูทะเลในยามค่ำคืน ระหว่างที่กินอยู่รถบัคกี้ส่งเสียงดังโดราเอมอนรำคาญที่บอกว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับดวงจันทร์ บัคกี้เลยงอนแล้วดำลงไป คืนนั้นบัคกี้ปลุกชิซุกะเพื่อบอกว่าใครเป็นคนช่วยไจแอนท์และซึเนะโอะโดยฉายวิดีโอ ก็พบว่าหลังจากที่ไจแอนท์และซึเนะโอะตกลงจากบัคกี้ก็มียานของมนุษย์ใต้สมุทรแล่นผ่านมาและฉายแสงปรับสภาพใส่ทั้งสองคน ขณะเดียวกัน โดราเอมอน โนบิตะ ไจแอนท์ และซึเนะโอะ ชิซุกะได้ยินเสียงทั้งสี่คนเลยเรียกมาให้ดูวิดีโอของบัคกี้ ต่อมามนุษย์ใต้สมุทรถูกปลาปีศาจที่โนบิตะเห็นไล่ตาม เมื่อยิงจนตกก็หนีไป หลังจากวิดีโอจบแล้วโนบิตะ ไจแอนท์ และซึเนะโอะโกรธที่บัคกี้บอกเรื่องร้ายแรงแบบนี้แค่ชิซุกะคนเดียว เนื่องจากมนุษย์ใต้สมุทรมีศัตรูแล้วโนบิตะเลยบอกว่าหมึกยักษ์ตัวนั้นต้องออกมาแน่ ๆ และออกมาจริง ๆ จึงเข้าไปหลบในเต็นท์ แต่ก็เอาไม่อยู่และทุกคนก็ถูกจับ ทันใดนั้นมีแสงปริศนาทำให้หมึกยักษ์ปล่อยทั้งห้า ส่วนบัคกี้ไปหลบอยู่ใต้ทรายโดราเอมอนเลยเก็บใส่กระเป๋า ทันใดนั้นมนุษย์ใต้สมุทรปรากฏตัว เอล หนึ่งในมนุษย์ใต้สมุทรช็อคทุกคนให้สลบ

โนบิตะ ชิซุกะ และโดราเอมอนฝันเพื่อการศึกษาเพื่อเป็นการแนะนำประเทศของเอล เอลเล่าว่าเคยใช้แสงปรับสภาพเพื่อไปดูโลกบนดินและพบว่าคนบนนั้นป่าเถื่อน ซึ่งไจแอนท์และซึเนะโอะเป็นสองคนในนั้น ทั้งสามขอร้องให้เอลปล่อยสองคนนั้นออกไป จากนั้นเขาพาไปพบสองคนที่คุกใต้ดินและพาไปหาผู้นำแห่งทวีปมู เมื่อไปถึงคุกใต้ดินไจแอนท์แสดงอาการป่าเถื่อนให้ปล่อยไป จึงช่วยไม่ได้ และผู้นำไม่อนุญาตให้ทั้งสามคนออกนอกพรมแดนอีกต่อไปเพื่อไม่ให้คนข้างบนรู้เรื่องดินแดนใต้สมุทร ถ้าออกไปมีโทษประหารชีวิต ต่อมาเอลพาสามคนไปที่ที่พักและบอกว่าอย่าออกไปข้างนอกเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวาย สั่งการเจ้าหน้าที่โดยกดออดเรียกเท่านั้น พวกเขาเลยหลบหนีออกไปจากประเทศโดยไปช่วยทั้งสองคนจากคุกและใช้หมวกกิ้งก่าซ่อนตัวพวกเขาจนสุดเหวทะเล ทางเอลพบว่าโดราเอมอน โนบิตะ และชิซุกะหนีไปแล้วจึงออกตามล่า ระหว่างที่ขับยานก็พบปลาสงคราม (ปลาประหลาดที่โนบิตะพบ) จู่โจมจนยานตก ไจแอนท์ออกไปจากหมวกเพื่อช่วยเอล โดราเอมอนใช้ไฟฉายย่อส่วนย่อส่วนปลาสงคราม จากนั้นทหารคนอื่น ๆ ของประเทศมาช่วยเอลพร้อมกับจับตัวทั้งห้าขังไว้ที่คุกใต้ดินรอประหารและยึดกระเป๋า 4 มิติของโดราเอมอนด้วยเพื่อไม่ให้หลบหนี

เอลไปแก้ต่างที่ศาลเพื่อให้ศาลเมตตาพวกเขาที่ช่วยเขาเอาไว้ แต่ศาลก็ยังไม่เมตตาให้และจะตัดสินประหารชีวิต ทันใดนั้นมีเรือตรวจการณ์ที่สังเกตการณ์ที่เบอร์มิวดาบินกลับมาตกและรายงานว่าปราสาทหินปีศาจเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว เพราะภูเขาไฟระเบิด หากระเบิดอีกโลกจะถึงกาลอวสาน เพื่อที่จะล้มโพไซดอน พวกเขาจึงต้องขอแรงของโดราเอมอนและเพื่อน ๆ ในการช่วยโลก โดยมีเอลไปด้วย

หยุดโพไซดอน[]

เพื่อช่วยโลก แม้จะบรรทุกมาหกคน บัคกี้ก็วิ่งด้วยความเร็วสูง วันเดียวไปถึงปลายอเมริกาใต้ บัคกี้พูดกับชิซุกะว่าเขาทำเพื่อชิซุกะเสมอแม้จะไม่ชอบก็ตาม ระหว่างที่รับประทานอาหาร เอลได้เล่าถึงหลายพันปีก่อนว่าเมื่อก่อนนั้นโลกใต้สมุทรที่แบ่งเป็นมูในแปซิฟิกกับแอตแลนติสในแอตแลนติกมีวิทยาการและอารยธรรมก้าวหน้าไปเกินกว่าที่คนบนพื้นดินจะตามทันแล้ว แต่ทว่าเกิดสงครามระหว่างทวีปขึ้นจึงมีการวิจัยอาวุธใหม่ ๆ ขึ้น โดยแอตแอนติสสร้างระเบิดมุมปีศาจขึ้น ซึ่งสามารถทำลายโลกทั้งใบได้ในชั่วพริบตา และถ้าแอตแลนติสทำตัวเองก็ไม่รอดเลยทำบาเรียกั้น แต่ทว่าแอตแลนติสก็ล่มสลายลงในเวลาอีกไม่นานเพราะทดลองนิวเคลียร์ผิดพลาด แต่เพราะบาเรียทำให้โลกข้างนอกไม่ได้รับผลกระทบ แต่ระเบิดมุมปีศาจยังอยู่ และถ้าหากภูเขาไฟใต้ทะเลแถวนั้นระเบิดขึ้นโพไซดอนที่เป็นคอมพิวเตอร์จะตอบสนองทันทีและโลกทั้งโลกจะต้องพินาศ

เมื่อเข้าไปใกล้น่านน้ำของเบอร์มิวดาก็พบกับปลาสงครามเต็มไปหมด ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ทำลายศัตรูเท่านั้น และแล้วพวกเขาก็มาถึงบาเรียคุ้มกันแอตแลนติสที่มืดมิด โดราเอมอนลองเอาปลาสงครามที่ได้มาทดสอบก็พบว่ามันระเบิดและปลาสงครามที่เหลือก็ออกมา ทุกคนจึงต้องซ่อนตัวในหมวกและเดินลอดใต้บาเรีย พวกเขาสามารถผ่านมันมาได้สำเร็จ แต่หาปราสาทหินปีศาจของโพไซดอนนั้นไม่ง่ายเลยเพราะสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้นกว้างมาก จะใช้บัคกี้ก็ไม่ได้เพราะจะมีกองทหารเหล็กมาจับตัว หลายชั่วโมงต่อมาภูเขาไฟจะระเบิดเลยต้องนั่งบัคกี้แทน พวกเขาพบกับซากเครื่องบินและเรือที่ชนบาเรียแล้วตกลงมา และนครแอตแลนติสเมื่อ 7,000 ปีก่อน แต่แล้วกองทหารเหล็กเจอตัวจนได้เลยต้องซ่อนตัวในหมวก พวกเขาต้องไม่ส่งเสียงดังเพราะหูของกองทหารเหล็กไวมาก แต่แล้วไจแอนท์ก็จามจึงต้องใช้ตัวตุ่นเทอร์โบล่อกองทหารเหล็กไปที่อื่น และนั่งบัคกี้ตามไป แต่บัคกี้บอกจะไม่วิ่งในที่แบบนี้และเข้าไปอยู่ในกระเป๋าของโดราเอมอน ทุกคนจึงใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่เพื่อหากองทหารเหล็ก แต่ก็ไม่พบแถมแบตเตอรี่จะหมด พวกเขาไม่พบร่องรอยไปยังปราสาทเลยชิซุกะจึงอาสาเป็นตัวล่อไปยังปราสาทโดยใช้วงดนตรีเสริมอารมณ์เบนความสนใจ เมื่อถูกจับแล้วทุกคนก็ตามไปยังปราสาทหินปีศาจ พวกเขาเตรียมอาวุธในมือแล้วเข้าไปต่อสู้กับกองทหารเหล็ก ชิซุกะเห็นโฉมหน้าของโพไซดอนซึ่งจะแก้แค้นให้กับอดีตที่เจ็บปวด มันไม่เชื่อว่าเป็นเพราะภูเขาไฟระเบิด ชิซุกะบอกว่าจะต้องทำลายมัน มันจึงฉายภาพชะตาชีวิตทั้งห้าคน ซึ่งทุกคนไม่สามารถสู้กับกองทหารเหล็กได้เลย แต่โดราเอมอนสามารถเข้ามาหาโพไซดอนได้และสลบไป ชิซุกะน้ำตาไหลที่ไม่สามารถช่วยโลกได้ บัคกี้ที่รับรู้ความรู้สึกของชิซุกะเลยออกมาจากกระเป๋าโดราเอมอนและสังเวยชีวิตเพื่อถล่มโพไซดอน โพไซดอนถูกทำลายและทุกคนสามารถรอดมาได้ และภูเขาไฟเกิดระเบิดขึ้น แอตแลนติสพังทลายไม่เหลือร่องรอยแล้ว

ที่ทวีปมู ผู้นำแถลงการณ์เกี่ยวกับความสำเร็จของทั้งหกกับบัคกี้ ชิซุกะถือชิ้นส่วนของบัคกี้ที่ที่เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม หลังจากนั้นเอลพาทุกคนมาส่งที่ชายทะเล และถึงคราวลาจากกับพวกโดราเอมอน หลังจากลาแล้วทุกคนผ่านประตูไปที่ไหนก็ได้กลับบ้าน

ตัวละคร (ตามลำดับการปรากฎตัว)[]

ของวิเศษที่ใช้ (ตามลำดับการปรากฎ)[]

นักพากย์ญี่ปุ่น[]

ภาพยนตร์รุ่น 1979
ภาพยนตร์รุ่น 2005
Advertisement