Doraemon Thai Wiki
Register
Advertisement
Doraemon Thai Wiki
โดราเอมอน: โนบิตะตะลุยแดนปีศาจ 7 ผู้วิเศษ
2007japanpos
ภาษาญี่ปุ่น: 映画ドラえもん のび太の新魔界大冒険 〜7人の魔法使い〜
Rōmaji: Doraemon: Nobita no Shin Makai Daibōken ~Shichinin no Mahō Tsukai~
ข้อมูลภาพยนตร์
กำกับโดย: Yukiyo Teramoto
เขียนโดย: Yuichi Shinbo
วันเข้าฉาย: 10 มีนาคม 2550 (ญี่ปุ่น)
ผู้ดูแลงานศิลป์: Makoto Dobashi
เพลงประกอบ: Hagushichao เพลงเปิด

Kakegae no Nai Uta เพลงปิด

จัดจำหน่ายโดย: Toho

Rose (ไทย)

สตูดิโอ: Shin Ei Animation
ระยะเวลา: 113 นาที
ประเทศ: ญี่ปุ่น
Box Office: 3.54 ล้านเยน (ญี่ปุ่น)

3.3 ล้านบาท (ไทย)

ก่อนหน้า
โดราเอมอน: ไดโนเสาร์ของโนบิตะ 2006
ถัดไป
โดราเอมอน: โนบิตะกับตำนานยักษ์พฤกษา

โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ โนบิตะตะลุยแดนปีศาจ กับเจ็ดผู้วิเศษ (映画ドラえもん のび太の新魔界大冒険 〜7人の魔法使い〜) เป็นโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ลำดับที่ 27 เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2550 เป็นการนำตอน ท่องแดนเวทมนตร์ กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง

เนื้อเรื่องย่อ

โนบิตะอยากจะทำให้โลกนี้กลายเป็นโลกแห่งเวทย์มนต์ จึงใช้ตู้โทรศัพท์สมมุติว่าเพื่อทำให้โลกนี้สามารถใช้เวทมนต์ได้ แต่ว่าโนบิตะกลับเป็นคนเดียวที่ไม่สามารถใช้เวทมนต์ได้ดีเท่าคนอื่น และต่อมาโนบิตะและเพื่อนๆก็ได้รู้ว่าดวงดาวแห่งปีศาจกำลังจะใกล้เข้ามายังโลกใบนี้แล้ว หากไม่หาทางทำอะไรซักอย่าง โลกนี้จะต้องแตกสลายไปเพราะดาวแห่งปีศาจ เพื่อนๆจึงต้องหาทางหยุดดาวแห่งปีศาจให้จงได้

เนื้อเรื่องอย่างละเอียด

เปิดเรื่องโดยมีรายงานข่าวด่วนเกี่ยวกับยานอวกาศลำหนึ่งถูกแรงดึงดูดของดาวปริศนาดวงหนึ่งทำลาย และดาวดวงนั้นกำลังเคลื่อนตัวมาทางโลก จากนั้นได้รับรายงานเป็นภาพของดวงดาวปริศนาดวงนั้น ซึ่งมันก็คือหลุมดำขนาดยักษ์ จากนั้นสัญญาณก็ได้ขาดหายไป

ในวันนั้นโนบิตะพบกับปัญหาที่ถาถมมาใส่ตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นสอบได้ 0 คะแนน เป็นตัวถ่วงในการเล่นเบสบอล รวมถึงถูกคุณแม่ดุเรื่องห้องของเขาที่ไม่ได้เก็บ เมื่อโนบิตะเก็บห้องไปได้สักพักก็พลาดทำห้องเละเทะอีก โนบิตะเลยร้องหาโดราเอมอนซึ่งกำลังดูรายงานข่าวเกี่ยวกับการคืบใกล้ของหลุมดำยักษ์ เขาโผกอดโดราเอมอนแต่เผอิญไปโดนรีโมทเปลี่ยนช่องเป็นรายการเวทมนตร์ที่สามารถเสกให้ห้องสะอาดและทำการบ้านเสร็จแทน ต่อมาระหว่างที่กำลังเก็บห้อง โดราเอมอนบอกโนบิตะว่าเวทมนตร์ไม่มีอยู่จริง แต่ทว่า ทีรูปปั้นโดราเอมอนตกลงมาใส่หลังคาบ้าน เพราะแรงนั้นทำให้โดราเอมอนและโนบิตะต้องซ่อมหลังคาและซ่อนรูปปั้นหินนั้น ต่อมาชิซุกะมาบอกโนบิตะว่าเขากำลังถูกไจแอนท์และซึเนะโอะรังแก ซึ่งก็เป็นแค่รูปปั้นหิน พวกเขาสองคนเอารูปปั้นนั้นมาไว้ที่สวนหลังบ้าน และพบว่ารูปปั้นเหงื่อแตกได้!!! จากนั้นฝนก็ตกลงมาเพราะมีพายุเข้า

ต่อมาโนบิตะและโดราเอมอนได้ยินเสียงประหลาด ๆ จากชั้นล่าง และพบว่าประตูครัวถูกเปิดทิ้งเอาไว้และเห็นรูปปั้นหินเข้ามาในบ้านเมื่อฟ้าผ่าและตกใจสุดขีด คุณพ่อและคุณแม่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับสั่งให้เอารูปปั้นหินไปทิ้ง โดราเอมอนเลยเก็บใส่กระเป๋าสี่มิติแล้วขึ้นไปนอน ต่อมาโดราเอมอนปวดท้องปริศนาจึงต้องกลับไปยังศตวรรษที่ 22 เพื่อเข้ารับการรักษา เมื่อไปถึงบ้านของเซวาชิ เขาก็หายแล้ว แต่โดรามิและเซวาชิรั้งเขาเอาไว้ แต่ก็หนีกลับไปได้ ต่อมาโนบิตะนึกออกว่าสามารถใช้ตู้โทรศัพท์สมมติเพื่อเปลี่ยนให้เป็นโลกแห่งเวทมนตร์ แต่เมื่อกลายเป็นโลกแห่งเวทมนตร์แล้วทั้งสองไม่สามารถใช้เวทมนตร์อะไรได้เลย เลยเข้านอน ที่ดาวแดนปีศาจ เมดูซ่า เห็นภาพโดราเอมอนและเพื่อน ๆ จากลูกบอลวิเศษจึงถามจอมปีศาจเดมาออนว่าเป็นใคร เขาตอบไปว่าเป็นพวกที่จะมาล้มเขา เขาจึงสั่งให้เมดูซ่าไปแสดงฤทธิ์เดชของเธอที่โลก

วันต่อมาโดราเอมอนเห็นคนขี่ไม้กวาดกับพรมวิเศษเขาเลยปลุกให้โนบิตะไปดูเพื่อยืนยันว่าที่นี่เป็นโลกแห่งเวทมนตร์แล้ว ที่ครัว คุณแม่ใช้เวทมนตร์ทำอาหารได้ และบอกให้โนบิตะรีบกินเพื่อไม่ให้ไปโรงเรียนสายเนื่องจากที่บ้านไม่มีพรมวิเศษและไม่มีใครมีใบขับขี่ แถมโนบิตะก็ขี่ไม้กวาดไม่เป็น โนบิตะเลยต้องเดินไปโรงเรียนเองเหมือนเคย ที่โรงเรียน โนบิตะถูกคุณครูสั่งให้ลองใช้เวทมนตร์ที่ง่ายที่สุด นั่นคือการลอยของ โดยให้ลอยตุ๊กตา โนบิตะทำเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ ซึเนะโอะเลยมาสาธิตโดยลอยตัวโนบิตะแทน หลังเลิกเรียน ทุกคนใช้เวทมนตร์ในการเล่นด้วย แต่โนบิตะทำอะไรไม่ได้สักอย่าง กลับมาบ้าน โนบิตะถูกดุที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ต่าง ๆ ได้เลย โนบิตะถอดใจอยากทำให้เป็นเหมือนเดิมเพราะมาโลกนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากโลกเดิมเลย แต่ต่อมาไจแอนท์และซึเนะโอะชวนไปขี่ไม้กวาด แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาขี่ไม่เป็นเลยหัวเราะเยาะแล้วจากไป โนบิตะเจ็บใจจึงอยากใช้มนตร์เป็นให้ได้สักอย่าง ต่อมาชิซุกะมาช่วยสอนโนบิตะให้ใช้เวทมนตร์ลอยตุ๊กตา เขาใช้เวทมนตร์ได้แต่เฉพาะเปิดกระโปรงของชิซุกะ เขาเลยใช้เวทมนตร์นี้แกล้งเธอจนโมโห ต่อมาทั้งสามคนพบดาวหางปริศนาตกแถวเขตป่าที่ภูเขาทาคาอิ ชิซุกะจึงขี่ไม้กวาดไปดู โนบิตะจะลองทำตามบ้างแต่ก็คว้าน้ำเหลวเลยต้องขี่หลังชิซุกะ โดราเอมอนใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่ที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ที่งมงายในโลกเวทมนตร์ เมื่อมาถึงภูเขาทาคาอิก็พบว่าป่าถูกทำลายราบไปเลย ซึ่งในตอนนั้นเองไจแอนท์และซึเนะโอะก็มาด้วย ซึ่งทั้งคู่มาไล่จับลิงปีศาจที่มาพร้อมกับดาวหาง ระหว่างการไล่ล่าพวกเขาก็ถูกลิงปีศาจใช้เวทมนตร์ช็อค ทำให้ไม้กวาดของพวกเขาไหม้ทั้งหมด พวกเขาทั้งหมดตกลงมาชนพรมวิเศษของมิโยโกะ เมื่อทักทายกันแล้วก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้น โดยในโลกเวทมนตร์เกิดขึ้นประจำจากการคืบใกล้ของดาวแดนปีศาจ จากนั้นมิโยโกะพาทุกคนไปยังบ้านของเธอ โดยที่เมดูซ่าได้เฝ้าดูพวกเขา พวกเขาได้พบกับผู้วิเศษมังเงะสึซึ่งเป็นผู้โด่งดังในด้านเวทมนตร์ จากนั้นเขาให้มิโยโกะช่วยพยาบาลไจแอนท์และซึเนะโอะที่กำลังบาดเจ็บ และเขาได้พูดถึงประวัติของการใช้เวทมนตร์ ซึ่งเป็นการยืมพลังของปีศาจที่อาศัยอยู่บนดาวแดนปีศาจ การเข้าใกล้โลกของดาวแดนปีศาจในอดีตเคยทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ และน้ำท่วมโลกสมัยโนอาห์ แต่เมื่อเขาได้เอาเรื่องนี้ไปอธิบายก็ไม่มีใครเชื่อ ต่อมาเขาได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของเขา ซึ่งตอนที่มิโยโกะเป็นเด็กเธอได้ป่วยเป็นโรคปริศนาที่ไม่สามารถรักษาด้วยเวทมนตร์ในขณะนั้น ภรรยาของเขาได้อ่านคัมภีร์เล่มหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับปีศาจ และพบเวทมนตร์ต้องห้ามที่สามารถแลกเปลี่ยนชีวิตตัวเองกับสิ่งที่ปรารถนา ทำให้เธอตัดสินใจที่จะสังเวยชีวิตของเธอด้วยการเข้าร่วมกับจอมปีศาจเดมาออน แต่ผู้วิเศษมังเงะสึมาพบก่อนจึงพยายามห้าม แต่ก็ห้ามไว้ไม่ทัน เขาต้องสูญเสียภรรยาของเธอเพื่อแลกกับชีวิตลูกสาวที่ฟื้นจากอาการป่วย ซึ่งเขาได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นอีกเหตุผลที่เรียกดาวแดนปีศาจเข้ามาใกล้โลก ซึ่งแทบจะไม่มีวิธีป้องกันเลย แต่เขาก็มีเอกสารโบราณเล่มหนึ่งที่เขียนที่ซ่อนวิถีปีศาจเอาไว้ แต่เขาไม่สามารถถอดความออกมาได้ จากนั้นโดราเอมอนให้วุ้นแปลภาษาแก่ผู้วิเศษมังเงะสึเพื่อให้ถอดความออกได้ จากนั้นมิโยโกะได้ไปส่งพวกเขาทั้งห้าในเมือง (ไม่ปรากฏในภาพยนตร์)

เมื่อถึงบ้านโนบิตะต้องการจะทำให้กลับเป็นโลกเดิมเพราะบรรลุเป้าหมายทุกอย่างแล้ว แต่ตู้โทรศัพท์สมมติก็ถูกเอาไปทิ้งกับขยะแล้ว พวกเขาเลยไปดูที่ที่ทิ้งขยะก็พบซากโทรศัพท์ ทำให้พวกเขาทะเลาะกัน กลับมาบ้านก็หันหลังกินข้าวด้วยกัน ส่วนที่บ้านของผู้วิเศษมังเงะสึ มิโยโกะได้เห็นดาวแดนปีศาจเข้าใกล้มามากกว่าเดิมอีก และผู้วิเศษมังเงะสึก็สามารถถอดความเอกสารโบราณนั้นได้หมด แต่แล้วก็ถูกปีศาจจับตัวไป ส่วนมิโยโกะรอดออกมาได้ การระเบิดนี้ทำให้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ต่อมาคุณพ่อเปิดทีวีเพื่อดูข่าวหลังจากที่ทั้งสองคนแย่งกันดูทีวี ก็พบข่าวเกี่ยวกับแผ่นดินไหวว่าศูนย์กลางอยู่ใกล้กับบ้านของผู้วิเศษมังเงะสึ พวกเขาเลยรีบไปกันแต่ต่างคนต่างไป แต่โดราเอมอนทิ้งคอปเตอร์ไม้ไผ่ไว้แล้ว ทั้งสองคนจึงคืนดีกัน เมื่อมาถึงก็พบว่าบ้านได้หายไปแล้ว และพบหนู (มิโยโกะตัวจริง) ทำให้โดราเอมอนตกใจล้มคะมำไป แต่ต่อมาปีศาจออกมาลาดตระเวนด้วย ต่อมา เมดูซ่า (แปลงร่างเป็นมิโยโกะ) ได้มาต้านทานปีศาจเอาไว้ แต่ก็เสียท่า โดราเอมอนเลยใช้ผ้าคลุมโบกพลิ้วสะท้อนเวทมนตร์ของปีศาจตนนี้เพื่อจัดการ และหลังจากที่พาตัวผู้วิเศษมังเงะสึไปแล้ว เมดูซ่าได้ยึดเอกสารโบราณที่บอกที่ซ่อนวิถีปีศาจไปด้วย แล้วเธอก็จากไป

วันต่อมาโรงเรียนสั่งหยุดเรียนกะทันหันเพราะเกิดพายุรุนแรง และในข่าวก็บอกว่าพายุได้เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก ระหว่างทางกลับบ้านทุกคนเลยคิดจะไปดาวแดนปีศาจเพื่อช่วยโลก ต่อมาเมื่อมีพัสดุจากมิโยโกะมาส่งให้โนบิตะซึ่งเป็นเอกสารโบราณเล่มนั้น หนูที่เป็นมิโยโกะตัวจริงได้เข้ามาด้วย โดราเอมอนเลยใช้ถั่วขจัดอัปมงคลไล่เธอออกไปข้างนอก และทุกคนมาหาที่บ้านโนบิตะเพื่อไปหาวิถีปีศาจโดยใช้ประตูไปที่ไหนก็ได้ไปยังบนพรมของมิโยโกะซึ่งเมดูซ่า (ร่างจำแลง) กำลังขี่อยู่และถูปีศาจไล่ตาม เมื่อถึงที่ซ่อน โนบิตะและเพื่อน ๆ ได้ลงไปเอาวิถีปีศาจส่วนโดราเอมอนและเมดูซ่าอยู่ด้านนอก เมื่อไจแอนท์โชว์คัมภีร์วิถีปีศาจออกมาก็ถูกเมดูซ่าเอาไปและเผยร่างจริงและจัดการทั้งห้าแล้วจากไป เมื่อพายุสงบแล้วทุกคนยกเว้นโดราเอมอนถูกแช่แข็งจึงกลับมาไว้ที่บ้านและละลายน้ำแข็งโดยใช้เข็มกลัด 4 ฤดู ทุกคนเซ็งที่โดนปีศาจหลอกเอาวิถีปีศาจไป แต่ก็ยังเหลืออีกครึ่งที่ยังสำคัญเช่นเดียวกัน ต่อมาหนูตัวเดิมมาเคาะประตูบ้านและเมื่อมีแสงจันทร์ หนูตัวนี้แปลงร่างกลับเป็นมิโยโกะเนื่องจากมนตร์ถูกคลายออก เธอเล่าเรื่องทุกอย่างว่าเจออะไรมา แต่ถึงกระนั้น เมื่อเมฆบังแสงจันทร์ เธอกลับเป็นหนูเหมือนเดิมทำให้โดราเอมอนช็อคหมดสติไปนาน ทุกคนจึงต้องแปลงร่างมิโยโกะใหม่จนกลายเป็นแมว (ตามแบบต้นฉบับ) เมื่อพร้อมแล้วทุกคนมุ่งหน้าออกสู่ดาวแดนปีศาจ ระหว่างทางโนบิตะเห็นสิ่งที่เปลี่ยนไปจากโลกจริง เช่น อยู่ในอวกาศแต่หายใจได้ เมื่อออกจากโลกมาก็พบว่าโลกถูกเมฆบังมิดไปทั้งดวงและมิโยโกะกลับเป็นร่างเดิมเมื่อสัมผัสแสงจันทร์ แต่หลังจากพ้นดวงจันทร์ไปก็กลับเป็นแมวเหมือนเดิม โดราเอมอนเลยเสนอแนะให้ติดไฟฉายแสงจันทร์เพื่อคลายมนตร์แต่แปลงร่างเป็นหมาป่า ต่อมาพวกเขาลงไปอยู่ใต้พรมเพื่อพักผ่อน

ทางฝั่งเมดูซ่าและจอมปีศาจเดมาออน เดมาออนจะประหารเธอที่เอาวิถีปีศาจมาได้แค่ครึ่งเดียว และปล่อยให้มายังดาวแดนปีศาจได้ ทั้ง ๆ ที่เธอแช่แข็งพวกเขาไว้แล้ว แต่เนื่องจากเอาส่วนที่สำคัญมาก นั่นก็คือ การทำลายพลังของดวงจันทร์ เลยไว้ชีวิตเธอ ทางฝั่งโดราเอมอนและเพื่อน ๆ มิโยโกะได้ทำผมให้ชิซุกะแล้วคุยเกี่ยวกับชีวิตของเธอในวัยเด็กที่ไว้ผมยาวแตกต่างจากตอนนี้ที่ไว้ผมสั้น เมื่อทำเสร็จแล้วเธอออกมานอกพรมแล้วนั่งเหม่อ จากนั้นโนบิตะเรียกเธอให้ไปรับประทานอาหารร่วมกัน และโนบิตะให้คำมั่นสัญญาว่าจะต้องช่วยผู้วิเศษมังเงะสึออกมาให้ได้

หลายวันผ่านไปทั้งหกได้เข้าใกล้ดาวแดนปีศาจที่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวไฟสีดำ มีรูเปิดเฉพาะขั้วโลกใต้ พวกเขาจึงเข้าไปในนั้น และพรมก็ลุกไหม้ เมื่อพ้นชั้นเปลวไฟพวกเขาหนีออกมาข้างนอกและซ่อนตัวเพราะว่าพวกปีศาจที่สังเกตการณ์ต้องยกพวกมาตรวจสอบแน่นอน หลังจากที่พวกปีศาจไปหมดแล้วโดราเอมอนได้ใช้ดาวเทียมสอดแนมติดตามปีศาจไปตลอดและพวกเขาได้ตามไปด้วย แต่เนื่องจากพายุหิมะจัดพวกเขาจึงต้องหยุดพัก และเนื่องจากความหนาวเย็นอย่างมากทำให้พวกเขาเกือบจะแข็งตาย โนบิตะหลับไปท่ามกลางความหนาวและฝันว่าหิมะอุ่น โดราเอมอนเลยเอาครีมตรงกันข้ามให้ทุกคนทาเพื่อให้สามารถเดินทางต่อได้โดยไม่หนาวอีกต่อไป พวกเขาเดินทางข้ามทะเลเพื่อไปยังเมืองปีศาจ แต่แล้วแบตเตอรี่ของคอปเตอร์ไม้ไผ่ของทุกคนได้หมดลงแล้ว และดูดาวเทียมต่อซึ่งมันไปถึงปราสาทของเดมาออนแล้ว โดราเอมอนเลยให้ไจแอนท์ใช้ถุงมือตัวตุ่นเพื่อเดินทางต่อไปโดยเดินทางใต้ดินจนถึงปราสาทของจอมปีศาจเดมาออน พวกเขาใช้ดาวเทียมสอดแนมอีกครั้งและได้เห็นใบหน้าของเดมาออนชั่วครู่แล้วภาพก็ถูกตัดไปเพราะดาวเทียมถูกทำลายโดยเดมาออน จากนั้นทุกคนได้รับดาวหายตัว, ไฟฉายแสงจันทร์, และลูกดอกเงินคนละสองดอก แล้วเกาะกลุ่มกันขึ้นไปถึงห้องพักของจอมปีศาจ เมื่อทั้งหกเจอจอมปีศาจเดมาออนแล้วมิโยโกะบอกว่าจะไว้ชีวิตถ้าไม่บุกโลก จอมปีศาจเดมาออนบอกว่าละทิ้งไม่ได้เนื่องจากพวกเขาหมายปองกันมานานแล้ว พวกเขาจึงหยิบลูกดอกเงินมาเตรียมตัว แต่เดมาออนใช้เวทมนตร์สร้างภาพลวงตารอบพวกเขา แต่ซึเนะโอะและทุกคนใช้ไฟฉายแสงจันทร์แก้มนตร์นั้นและปักลูกดอกเงินตรงหน้าอกของเดมาออน แต่ไม่สะทกสะท้านเลย มิโยโกะเลยลองใช้ดาบเพื่อฟันเดมาออน แต่ทุกคนก็ถูกเวทมนตร์พัดออกจากปราสาท แล้วสั่งให้ลูกน้องทั้งหมดจับพวกเขามาให้ได้ พวกเขาทุกคนใช้ดาวหายตัวหนีไปทางป่า แต่เนื่องจากตามกลิ่นไปเลยใช้ไม่ได้ผล ไจแอนท์ ซึเนะโอะ และชิซุกะถูกจับได้หมด ต่อมาโนบิตะก้าวพลาดหกล้มทำให้ดาวหายตัวพัง ทำให้มิโยโกะเห็นเขาเลยดึงเข้ามาซ่อนได้ แล้วเอาดาวหายตัวให้โนบิตะแล้วตัวเองก็สู้กับปีศาจ ส่วนโนบิตะก็หนีไปที่ป่า ซึ่งมีเฉพาะโนบิตะและโดราเอมอนเท่านั้นที่รอดมาได้ พวกเขาจึงรอทุกคนแต่ก็ไม่มีใครมาจนค่ำ โนบิตะโทษตัวเองว่าที่โลกเป็นแบบนี้ก็เพราะใช้โทรศัพท์สมมติทำให้กลายเป็นโลกแห่งเวทมนตร์ แต่โดราเอมอนคิดได้ว่าควรจะไปหยุดพวกเขาเองก่อนที่จะใช้โทรศัพท์สมมติโดยเอาลิ้นชักของโนบิตะเพื่อนั่งไทม์แมชชีน เดมาออนสังเกตได้จึงส่งเมดูซ่าไปจัดการ

พวกเขากลับไปยังโลกก่อนที่จะถูกเปลี่ยนให้เป็นโลกแห่งเวทมนตร์ (ซึ่งดาวแดนปีศาจเทียบเท่ากับหลุมดำขนาดักษ์ ในภาพยนตร์จะตัดภาพดาวทั้งสองสลับไปมาแล้วจบที่หลุมดำ) ต่อมามีสัญญาณเตือนจากไทม์แมชชีนของโดราเอมอนซึ่งเมดูซ่าตามพวกเขามาอยู่ พวกเขาเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี เมื่อออกมาจากไทม์แมชชีนพวกเขาหนีออกไปทางหน้าต่างเพื่อใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่ แต่ลืมว่าแบตเตอรี่หมดแล้ว จากนั้นเมดูซ่าออกมาจากมิติเวลาแล้วไล่ล่าโนบิตะกับโดราเอมอนที่กำลังขี่ไม้กวาดแล้วสาปทั้งสองให้เป็นหินก่อนที่เธอจะกลับไปยังดาวแดนปีศาจ รูปปั้นหินโดราเอมอนตกใส่หลังคาบ้านโนบิตะ ส่วนรูปปั้นหินโนบิตะและไม้กวาดไปตกบนต้นไม้ที่ลานว่าง จากนั้นพวกเขาถูกเอามาไว้ที่สวน ในคืนนั้นเมื่อแสงจันทร์ส่องลงมาที่พื้นทั้งสองเคลื่อนไหวได้เลยรีบจะไปหยุด แต่โชคร้ายที่เมฆบังแสงจันทร์ทำให้ทั้งสองกลายเป็นหินยืนอยู่หน้าประตูบ้านตามเดิม ทั้งสองถูกใส่ลงในกระเป๋า 4 มิติของโดราเอมอนและไปพบไฟฉายแสงจันทร์เข้า พวกเขาเลยใช้ไฟฉายเพื่อทำให้กลับเป็นร่างเดิมในร่างมนุษย์มาป่า พวกเขาปาของไปรอบ ๆ ห้วงมิติเวลาในกระเป๋าทำให้โดราเอมอนปวดท้อง แต่ทำได้ไม่นานไฟฉายแสงจันทร์หมดฤทธิ์ พวกเขากลับเป็นหินเหมือนเดิม และโดราเอมอนหายปวดท้อง จากนั้นโทรศัพท์สมมติก็ถูกใช้ (โดยตัดภาพดาวทั้งสองสลับไปมาเหมือนเดิมแล้วจบที่ดาวแดนปีศาจระหว่างที่กริ่งกำลังดัง)

ที่ดาวแดนปีศาจ มิโยโกะกลับเป็นร่างเดิมและได้พบกับคุณพ่อ (ผู้วิเศษมังเงะสึ) โดยทั้งหมดรวมถึงไจแอนท์ ซึเนะโอะ และชิซุกะ ถูกจับอยู่ในคุกใต้ดิน มิโยโกะให้ความหวังว่าโดราเอมอนและโนบิตะจะมาช่วยได้ แต่พวกปีศาจบอกว่าทั้งสองโดนเมดูซ่าสาปเป็นหินไปแล้ว และวันต่อมาดาวแดนปีศาจจะประชิดโลก แต่ก่อนจะถึงวันต่อไปจะเอาพวกเขาทั้งห้าไปเป็นอาหารจานพิเศษในงานฉลองชัยล่วงหน้า กลับมาที่โลก โดรามิเห็นโดราเอมอนปวดท้องเลยคิดว่าอาจจะเป็นเพราะกระเป๋าวิเศษเลยมาดูก็พบว่ามีหินสองก้อนที่คล้ายทั้งสองคนเลยใช้ผ้าคลุมกาลเวลากลับเป็นเหมือนเดิม จากนั้นทั้งสองบอกว่าดันไปทำให้เป็นโลกแห่งเวทมนตร์เข้า โดรามิเลยเอาตู้โทรศัท์สมมติของเธอเพื่อให้กลับเป็นโลกเดิม แต่ยังไม่จบ เพราะถ้าทำไปจะกลายเป็นโลกคู่ขนาน ซึ่งไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเลยสักนิด (รวมถึงโลกเดิมก็มีปัญหาที่คล้ายกันอยู่แล้ว) แถมสัญญากับมิโยโกะว่าต้องช่วยผู้วิเศษมังเงะสึออกมา พวกเขาจึงไปยังดาวแดนปีศาจ ซึ่งตอนนั้นเองเมดูซ่าได้รับมอบหมายให้ไปทำลายพลังของดวงจันทร์ก่อนที่จะยึดครองโลกเพื่อกำจัดจุดอ่อนออกไป

ที่ห้องครัวของปราสาท ทั้งห้าถูกล่ามด้วยโซ่เวทมนตร์ พ่อครัวหนึ่งดาวต้องการจะย่างมิโยโกะ แต่ก็ขัดขืนทหารสองดาวที่ต้องการจะให้แล่เนื้อไม่ได้ ต่อมาทหารสามดาวต้องการต้ม เลยต้องเลยตามเลย ต่อมาปีศาจทุกตนโดนเบนความสนใจด้วยบอลลูนโดราเอมอนเพื่อเปิดทางให้มาช่วยทุกคน เมื่อช่วยมาได้แล้วโดรามิระเบิดบอลลูนเพื่อเสร็จสิ้นภารกิจและทุกคนไปยังดวงจันทร์เพื่อไปหยุดเมดูซ่า แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะเธอทำลายพลังของดวงจันทร์ไปแล้ว ทำให้จอมปีศาจเดมาออนและกองทัพของเขาสามารถบุกโลกได้อย่างง่ายดาย ส่วนเมดูซ่าไม่สามารถต้านทานพลังของดวงจันทร์ที่แผ่ออกมาไปทั่วอวกาศได้เธอจึงตายไปในที่สุด และกลายเป็นวิญญาณซึ่งเป็นร่างเดิมของภรรยาของผู้วิเศษมังเงะสึเพื่อทิ้งท้ายก่อนที่จะลาลับโลกนี้ไป และได้บอกทุกคนไว้ว่าดวงจันทร์ของดาวแดนปีศาจคือหัวใจของเดมาออน ทุกคนจึงออกเดินทางไปยังดาวดวงนั้น เดมาออนจึงสาปให้ดวงดาวต่าง ๆ กลายเป็นสายฟ้าผ่าชาวโลก ทุกคนมีอาวุธพร้อมโต้ตอบแล้ว ต่อมาเมื่อใกล้หัวใจของเดมาออน โนบิตะเป็นคนเดียวที่ยังเหลือลูกดอกเงินจึงใช้มันปักเข้าที่หัวใจ โดยโดรามิใช้ไฟฉายขยายส่วนเพื่อขยายลูกดอกเงิน หัวใจของเดมาออนถูกทำลาย ร่างของเขาจึงถูกแรงดึงดูดของดาวแดนปีศาจดึงเข้ามาและเกิดระเบิดทำลายดาว จากนั้นสร้อยคอของคุณแม่ของมิโยโกะที่มิโยโกะเก็บมาหลังจากที่คุณแม่สิ้นชีพไปได้ปล่อยพลังเติมให้กับดวงจันทร์เหมือนเดิม

เมื่อกลับมาที่โลก ทุกคนช่วยกันสร้างบ้านของผู้วิเศษมังเงะสึใหม่ ส่วนโนบิตะและมิโยโกะไปเดินเล่นแถวนั้นเพื่อบอกลาเนื่องจากโนบิตะจะต้องกลับไปยังโลกเดิมแล้ว จากนั้นโนบิตะ โดราเอมอน และโดรามิกลับไปที่บ้านเพื่อเปลี่ยนโลกให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ต่อมาโนบิตะก็ลองใช้เวทมนตร์ยกกระโปรงชิซุกะอีกครั้ง แล้วก็ยกจริง ๆ อาจเป็นแค่ลมพัดเฉย ๆ

ตัวละคร (เรียงลำดับการปรากฏตัว)

ของวิเศษที่ใช้ (เรียงลำดับการปรากฏ)

นักพากย์ญี่ปุ่น

เพลงประกอบ

เพลงเปิด  : Hagushichao

  • ศิลปิน : Natsukawa Rimi

เพลงปิด : Kakegae no Nai Uta (かけがえのない詩 บทเพลงที่ทดแทนไม่ได้)

  • ศิลปิน : Mihimaru GT 

ความแตกต่างระหว่างฉบับหนังสือการ์ตูน ฉบับภาพยนตร์ดั้งเดิมและฉบับรีเมค

มังงะ ฉบับดั้งเดิม ฉบับรีเมค
เริ่มเรื่องด้วยโนบิตะฝันว่าได้รับหมวกเวทมนตร์จากโดราเอมอนแล้วไปช่วยชิซุกะออกมา หลังจากที่ไล่ปีศาจออกไปหมดแล้วเขาถูกคุณแม่ปลุกให้กวาดพื้นต่อ ต่อมาโดราเอมอนเอาพรมเก่า ๆ ไปทิ้งแล้วพบกับรูปปั้นโดราเอมอน จากนั้นไจแอนท์ชวนโนบิตะไปเล่นเบสบอล ซึ่งโนบิตะเหม่อลอยตลอด โนบิตะมีปัญหาชีวิตรุมเร้า เขาเลยไปหาโดราเอมอนซึ่งกำลังดูทีวีเกี่ยวกับดวงดาวลึกลับที่อาจส่งผลกระทบกับโลก โนบิตะเลยเข้าไปโผกอดโดราเอมอนแต่เผอิญไปโดนรีโมทเปลี่ยนช่องเป็นช่องเวทมนตร์แทน
โนบิตะไปถามเดคิสุงิเกี่ยวกับเวทมนตร์ โดราเอมอนบอกว่าเวทมนตร์ไม่มีอยู่จริง และทันใดนั้นรูปปั้นหินโดราเอมอนตกลงมาจากหลังคา
โนบิตะไปนั่งฟุ้งซ่านที่ภูเขาหลังโรงเรียนแล้วพบไม้กวาดกับรูปปั้นหินตัวเขา ไจแอนท์และซึเนะโอะพบรูปปั้นหินโนบิตะเลยเอามาเล่น
ตกกลางคืนรูปปั้นหินเดินเข้ามาอยู่ด้านหลังของบ้าน รูปปั้นเดินมาหน้าบ้านแทน
โดราเอมอนและโนบิตะเอารูปปั้นหินไปวางไว้ที่สวนตามเดิม โดราเอมอนเอารูปปั้นหินใส่กระเป๋า 4 มิติ ต่อมาเกิดอาการปวดท้องเพราะทั้งสองใช้ไฟฉายแสงจันทร์คลายมนตร์จึงหาทางออกโดยการปาของรอบ ๆ โดราเอมอนไปหาโดรามิและเซวาชิที่โลกอนาคต ต่อมาโดราเอมอนหายปวดท้องเพราะไฟฉายแสงจันทร์หมดฤทธิ์ โดราเอมอนเลยจะกลับแต่โดรามิและเซวาชิรั้งเอาไว้ สุดท้ายก็กลับไปได้
คุณครูให้โนบิตะลอยชอล์คแต่ก็ทำไม่ได้ ต่อมาซึเนะโอะใช้เวทมนตร์บังคับชอล์คเขียนบนกระดานว่า "โนบิตะงี่เง่า" คุณครูสั่งให้โนบิตะลอยตุ๊กตา โนบิตะทำไม่ได้ และซึเนะโอะใช้เวทมนตร์ลอยตัวโนบิตะเอง
หลังจากที่คุณครูปล่อยโนบิตะให้กลับบ้านแล้วเขาไปนั่งที่ภูเขาหลังโรงเรียน จนโดราเอมอนต้องไปรับ กลับมาเขาถูกคุณแม่ดุ เพื่อน ๆ ใช้เวทมนตร์เล่นกีฬาต่าง ๆ มีแต่โนบิตะที่ทำไม่ได้ และกลับมาก็ถูกดุ
ชิซุกะมาหาโนบิตะทีหลังระหว่างที่กำลังฝึกลอยหิน โดราเอมอนและโนบิตะขอให้ชิซุกะมาช่วยดูและสอนการใช้เวทมนตร์ของเขา
เกิดแผ่นดินไหวหลังจากการฝึกเวทมนตร์ เห็นดาวตกที่ทำลายป่าราบเป็นหน้ากองแทน แผ่นดินไหวเกิดขึ้นตอนที่ทุกคนอยู่ในป่า
ชิซุกะและเพื่อน ๆ แบกไจแอนท์และซึเนะโอะไปยังบ้านดอกเตอร์มังเงะสึ มิโยโกะช่วยเหลือไจแอนท์และซึเนะโอะหลังจากที่ถูกลิงของเมดูซ่าช็อตไฟฟ้า และพาไปยังบ้านของเธอ
ไม่มีการกล่าวถึงแม่ของมิโยโกะ มีการกล่าวถึงแม่ของมิโยโกะ
หลังจากที่รู้ว่าตู้โทรศัพท์สมมุติถูกเอาไปกับรถขยะแล้วโดราเอมอนไปดูสภาพคนเดียว และทะเลาะกับโนบิตะที่บ้าน ทั้งสองไปดูสภาพของตู้โทรศัพท์ที่กองขยะ และทะเลาะกันบนนั้น
ลิงปีศาจเท่านั้นที่เอาบ้านของดอกเตอร์มังเงะสึไป คราวนี้เมดูซ่ามาด้วย
โดราเอมอนไปยังที่ตั้งบ้านของดอกเตอร์มังเงะสึตอนกลางวัน แต่ก็ไม่พบใครเลยเห็นแค่แมว ต่อมาทั้งห้าไปถามครูเกี่ยวกับทฤษฎีการคืบใกล้ของแดนปีศาจ แต่ครูไม่เชื่อ ต่อมามิโยโกะในร่างแมวตามมาถึงบ้านและถูกเลี้ยงอย่างแมวปกติ ในคืนนั้นเองมีแสงจันทร์ทำให้มิโยโกะกลับคืนร่างเดิมได้ชั่วคราว และบอกว่าผู้ที่จะล้มจอมปีศาจคือโดราเอมอนและเพื่อน ๆ จากนั้นจึงไปบอกให้เพื่อน ๆ ทราบ วันต่อมาเกิดพายุรุนแรงและโนบิตะตัดสินใจไปแดนปีศาจ วันนั้นที่ภูเขามีปีศาจมาจับตัวมิโยโกะ แต่โดราเอมอนสามารถเอาชนะได้ จากนั้นทุกคนไปยังดาวปีศาจ มีแมวเข้ามาและแปลงร่างเป็นมิโยโกะตอนที่มีแสงจันทร์ในคืนนั้น และบอกว่าผู้ที่จะล้มจอมปีศาจคือโดราเอมอนและเพื่อน ๆ จากนั้นจึงไปบอกให้เพื่อน ๆ ทราบ วันต่อมาเกิดพายุรุนแรงและโนบิตะตัดสินใจไปแดนปีศาจ วันนั้นที่ภูเขามีปีศาจมาจับตัวมิโยโกะ แต่โดราเอมอนสามารถเอาชนะได้ จากนั้นทุกคนไปยังดาวปีศาจ คืนนั้นโดราเอมอนและโนบิตะไปบ้านดอกเตอร์ แต่ก็พบว่าบ้านหายไปแล้ว และปีศาจเข้ามา แต่มิโยโกะ (ตัวปลอม) กำจัดไว้ได้ ส่วนตัวจริงถูกสาปเป็นหนูอยู่แถวนั้น วันต่อมาโนบิตะได้รับจดหมายและคัมภีร์โบราณมาจากมิโยโกะ พวกเขาทั้งห้าเลยไปหาวิถึปีศาจกับมิโยโกะตัวปลอมที่เมดูซ่าปลอมตัวมาและสามารถชิงไปได้ครึ่งหนึ่ง ต่อมาก็พบว่ามิโยโกะถูกสาปเป็นหนู ทุกคนเลยช่วยเปลี่ยนร่างเป็นแมว
ใต้พรมมีห้องห้องเดียว ใต้พรมมีห้องหลายห้อง
ดาวแดนปีศาจมีสีดำสนิท รูเปิดขั้วโลกใต้สีสว่าง ดาวแดนปีศาจมีสีแดงเรืองแสงและมีควันไฟสีม่วงดำรอบดาว รูเปิดสีม่วงดำ
โดราเอมอนไม่ได้ใช้ดาวเทียมสอดแนม โดราเอมอนใช้ดาวเทียมสอดแนมตามปีศาจไปจนเห็นหน้าจอมปีศาจเดมาออน
ระหว่างทางไปปราสาทเดมาออน ได้พบกับเกาะนางเงือก ซึ่งพวกนางเงือกจะส่งเสียงไพเราะหลอกล่อผู้ที่เข้ามาใกล้ให้ติดกับของปลายักษ์ และไม่สามารถกลบเสียงนี้ได้ แม้แต่พลาสเตอร์ปิดหูของโดราเอมอนก็อุดเสียงนี้ไม่ได้ แต่ได้ไจแอนท์ร้องเพลงใส่ ทำให้พวกนางเงือกและปลายักษ์หนีไป ฉากนี้ถูกตัดออกไปในภาครีเมค
มีการผจญภัยในทุ่งไม่หวนกลับและกลางป่าทึบ จากนั้นพวกเขาใช้หมวกก้อนหินริมทางเพื่อไม่ให้ใครสนใจเพื่อหลบสัตว์ประหลาดและปีศาจตนอื่น ๆ ในป่า จากนั้นแบตเตอรี่ของคอปเตอร์ไม้ไผ่หมดเมื่อใกล้จะถึงปราสาทของเดมาออน คอปเตอร์ไม้ไผ่แบตเตอรีหมดตอนจะเข้าสู่แผ่นดินปราสาทเดมาออน โดราเอมอนให้ไจแอนท์ใช้ถุงมือตัวตุ่นขุดโพรงไปยังใต้ปราสาทเดมาออน และใช้ดาวหายตัวแทน
ไม่มีฉากที่เดมาออนแยกหลายร่าง มีฉากที่เดมาออนแยกหลายร่าง แต่ซึเนะโอะใช้ไฟฉายแสงจันทร์เพื่อให้เวทมนตร์หายไป
โดราเอมอนและโนบิตะพบปีศาจเมดูซ่าไล่ตามมาตอนที่กลับมาถึงห้องแล้ว และวิ่งหนีไปทางบันได ก่อนที่จะใช้ไม้กวาดขี่หลบหนี โดราเอมอนและโนบิตะเห็นปีศาจเมดูซ่าตอนที่ยังอยู่ในมิติเวลาแล้วหนีออกทางหน้าต่างโดยลืมว่าคอปเตอร์ไม้ไผ่ไม่มีแบตฯแล้ว เลยร่วงลงมาข้างล่าง จากนั้นจึงใช้ไม้กวาดขี่หลบหนี
รูปปั้นหินโดราเอมอนตกที่ที่ทิ้งขยะ และรูปปั้นหินโนบิตะตกที่ภูเขาหลังโรงเรียน รูปปั้นหินโดราเอมอนตกที่หลังคาบ้านโนบิตะ และรูปปั้นหินโนบิตะตกที่ลานว่าง
มีทหารสามดาวตอนที่ปีศาจกำลังเตรียมตัวเอามิโยโกะ ดอกเตอร์ และเพื่อน ๆ มาทำอาหาร ไม่มีทหารสามดาวตอนที่ปีศาจกำลังเตรียมตัวเอามิโยโกะ ดอกเตอร์ และเพื่อน ๆ มาทำอาหาร มีทหารสามดาวตอนที่ปีศาจกำลังเตรียมตัวเอามิโยโกะ ดอกเตอร์ และเพื่อน ๆ มาทำอาหาร
หัวใจของเดมาออนอยู่ปะปนกับดาวอื่นในทะเลดวงดาวและไกลจากดาวแดนปีศาจ หัวใจของเดมาออนเป็นดวงจันทร์ของดาวแดนปีศาจ
ไจแอนท์ปาลูกดอกใส่หัวใจของเดมาออน โนบิตะปาลูกดอกแทนไจแอนท์ในฉากนี้

รูปภาพ

ภาพยนตร์รุ่น 1979
ภาพยนตร์รุ่น 2005
Advertisement