Doraemon Thai Wiki
Advertisement
Doraemon Thai Wiki

โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ : โนบิตะผู้กล้าแห่งอวกาศ (のび太の スペースヒーローズ 宇宙英雄記 โนบิตะ โนะ สึเปสึ ฮีโรสึ - อุจูว เอยูวกิ -) เป็นตอนลำดับที่ 35 ของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2558 และเข้าฉายในประเทศไทยในวันที่ 4 พฤษภาคม 2560 เป็นตอนที่ว่าด้วยเรื่องของเพื่อน ๆ ที่ต้องการเป็นฮีโร่ จึงได้แสดงเป็นฮีโร่แห่งอวกาศ

เนื้อเรื่องย่อ[]

โนบิตะต้องการจะเป็นฮีโร่ช่วยเหลือต่างดาว และรู้ว่าพวกซึเนโอะกำลังแสดงเป็นฮีโร่อยู่ เลยขอร้องให้โดราเอมอนนำขอวิเศษผู้กำกับเบอร์เกอร์ออกมา และหลังจากนั้นเพื่อน ๆ ก็ได้กลายเป็นฮีโร่จริง ๆ จึงถือกำเนิดเป็นหน่วยป้องกันกาแล็กซี่

ในขณะที่กำลังแสดงอยู่ ก็ได้พบกับอารอน ผู้ที่มาจากดวงดาวดาวพ็อคคุรุ อารอนได้ขอความช่วยเหลือเพื่อน ๆ เพราะดวงดาวของเขากำลังเดือดร้อน ซึ่งเพื่อน ๆ คิดว่าเป็นแค่การแสดงจึงตอบตกลงไป แต่มารู้ตัวทีหลังก็สายไปแล้ว โนบิตะและเพื่อน ๆ กำลังจะกลายเป็นฮีโร่ผู้กอบกู้ดวงดาวของจริง!

เนื้อเรื่องอย่างละเอียด[]

อยากเป็นฮีโร่[]

ในกลางดึกคืนหนึ่ง มียานอวกาศปริศนามาลงจอดที่ภูเขาหลังโรงเรียน โดยในยานมีมนุษย์ต่างดาว 1 คน วันต่อมา โนบิตะได้เล่นพันด้ายให้เด็ก ๆ ในเมืองดูที่ลานว่าง ในตอนนั้นเองไจแอนท์กับซึเนะโอะเดินผ่านมาโดยจะนำอุปกรณ์ไปแสดงเป็นฮีโร่ เมื่อพวกเขาได้เห็นโนบิตะก็บอกว่าเหมาะสมแล้วที่เล่นพันด้ายให้เด็กดู หลังจากที่ทั้งสองไปแล้วทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อไปดูการ์ตูนเรื่อง "หน่วยป้องกันกาแล็กซี่" โนบิตะที่ติดการ์ตูนเรื่องนี้ก็รีบกลับไปดูด้วย เมื่อได้เห็นหน่วยป้องกันกาแล็กซี่ที่ทำภารกิจสำเร็จเขาได้จินตนาการว่าถ้าตัวเองเป็นฮีโร่ป้องกันชาวเมืองและเจ้าหญิงชิซุกะจากปีศาจไจแอนท์และซึเนะโอะ ต่อมาคุณแม่เข้ามาเพื่อจะมาดูหนังที่จะฉายต่อ โนบิตะจึงต้องหลีกทางไป และปิ๊งไอเดียจึงออกจากบ้านไปเล่นเป็นฮีโร่ โดยเริ่มแรกโนบิตะจะไปชวนชิซุกะก่อน แต่ไม่อยู่ และไปอยู่ที่ภูเขาหลังโรงเรียนกับไจแอนท์และซึเนะโอะ โดยทั้งสามกำลังถ่ายหนังฮีโร่อยู่ โนบิตะก็เข้าไปรบกวนการถ่ายทำ และขอเข้าร่วมด้วย แต่ซึเนะโอะปฏิเสธเพราะกลัวหนังราคาจะถูกลง แต่ก็ได้บทที่เหมาะสมกับโนบิตะ คือเป็นปีศาจมังกรที่จะต้องโดนไจแอนท์สอย โนบิตะจึงรีบกลับไปหาโดราเอมอนเพื่อให้เขาได้เล่นเป็นฮีโร่ และได้บอกว่าซึเนะโอะได้ถ่ายหนังหน่วยป้องกันกาแล็กซี่ โดราเอมอนที่อินกับการ์ตูนนี้อยู่ด้วยจึงรีบไปหา แต่โนบิตะก็อยากของตัวเองขึ้นมา แน่นอน โดราเอมอนเห็นแล้วจึงต้องบอกว่าทำด้วยกันจะได้หนังที่ดียิ่งกว่า จึงรีบไปที่กองถ่ายของซึเนะโอะทันทีและใช้ของวิเศษ เริ่มจากใช้ไฟฉายอัปเกรด เพื่ออัปเกรดชุดฮีโร่ สิ่งต่อมาคือผู้กำกับเบอร์เกอร์ เป็นหุ่นยนต์ผู้กำกับ โดยบอกชื่อหนังที่ต้องการสร้าง มันจะช่วยจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นให้ และจะสร้างหนังให้อัตโนมัติระหว่างการแสดงตามบทบาท ซึ่งซึเนะโอะได้ทดสอบผู้กำกับโดยการให้ทำหนัง "โนบิกอนปะทะไจแอนท์" ซึ่งโนบิตะจะต้องรับบทเป็นมังกรปีศาจ ส่วนไจแอนท์เป็นฮีโร่ ทั้งนี้การถ่ายหนังสามารถสร้างเอฟเฟกพิเศษได้ด้วย (เช่น พ่นไฟได้) ซึเนะโอะชอบมากจึงขอให้โดราเอมอนมาร่วมถ่ายทำด้วย โดยแลกกับการที่ให้โดราเอมอนและโนบิตะรับบทฮีโร่ด้วย และต้องให้โดราเอมอนรับบทหัวหน้าหน่วย มิฉะนั้นจะไม่ให้ยืมอุปกรณ์ ไจแอนท์ตอนแรกไม่ยอม ซึเนะโอะจึงกระซิบว่าเดี๋ยวให้ผู้กำกับตัดต่อให้เขาเป็นฮีโร่ภายหลัง เขาจึงยอม เมื่อตกลงได้แล้วทุกคนจึงเริ่มถ่ายหนังกัน

ที่ใกล้ ๆ กองถ่าย เป็นจุดที่ยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวตกเมื่อคืน เขาได้ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและกำลังซ่อมยาน ส่วนที่กองถ่าย หลังจากที่ทุกคนได้รับชุดฮีโร่ที่อัปเกรดแล้ว ก็เริ่มถ่ายทำหนัง "หน่วยป้องกันกาแล็กซี่" ตอนแรกผู้กำกับไม่อยากถ่ายหนังเรื่องนี้ แต่ต้องเปลี่ยนใจเพราะชิซุกะ จึงได้เริ่มถ่ายทำ ซึ่งบทของหนังคือต้องกำจัดสัตว์ประหลาด โดยแต่ละคนจะมีความสามารถเฉพาะตัวจากชุดที่ได้ฉายไฟฉายอัปเกรดแล้ว ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคน โดยความสามารถของไจแอนท์ คือ พลังซูโม่ ความสามารถของซึเนะโอะ คือ เครื่องยนต์กลไก ความสามารถของชิซุกะ คือ อควาบีม ส่วนความสามารถของโนบิตะ คือ พลังพันด้าย แต่ไม่มีประโยชน์ใด ๆ และถูกสัตว์ประหลาดฟาดหางออกไป ในขณะนั้นเอง มนุษย์ต่างดาวที่กำลังซ่อมยานอยู่ในถ้ำ ได้เห็นการถ่ายหนังของโดราเอมอนและเพื่อน ๆ จึงคิดว่าพวกเขาสามารถที่จะช่วยอะไรเขาได้ เมื่อถ่ายหนังจบเขาได้มาขอความช่วยเหลือโดราเอมอนและเพื่อน ๆ ซึ่งเข้าใจผิดกันว่าเป็นนักแสดงสมทบของผู้กำกับเบอร์เกอร์ พวกเขาเห็นว่ามนุษย์ต่างดาวคนนี้กำลังพูดอะไรบางอย่างจึงใช้วุ้นแปลภาษาเพื่อให้คุยกันรู้เรื่อง พวกเขาแนะนำตัวว่าเป็นหน่วยพิทักษ์ทางช้างเผือก จึงถูกขอความช่วยเหลือให้ช่วยดาวพ็อคคุรุซึ่งเป็นดาวของมนุษย์ต่างดาวคนนี้ ทุกคนคิดว่ายังถ่ายหนังจึงต้องตอบรับว่าจะช่วยเหลือ จึงต้องขึ้นยานอวกาศไปยังดาวพ็อคคุรุ

มุ่งสู่ดาวพ็อคคุรุ[]

เมื่อออกมาถึงอวกาศแล้วมนุษย์ต่างดาวคนนี้ได้แนะนำตัวเองว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มาจากดาวพ็อคคุรุ ชื่ออารอน และได้เล่าเรื่องราวว่าดาวถูกยึดครองโดยโจรสลัดอวกาศ โดยดาวพ็อคคุรุเป็นดาวที่อยู่ไกลจากใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือก เป็นดาวที่มีขนาดเล็กมากและสงบสุข จนมาถึงวันหนึ่งที่มีสิ่งมีชีวิตจากดาวอื่นในนามบริษัท สเปซ พาร์ทเนอร์ มาตั้งสวนสนุกพ็อคคุรุแลนด์ และสามารถมัดใจชาวดาวได้อยู่หมัด แต่ได้เกิดสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับดาวในช่วงที่พ็อคคุรุแลนด์สร้างใกล้เสร็จ นั่นคือดาวค่อย ๆ แห้งแล้งลง อารอนจึงได้สืบค้นว่าบริษัท สเปซ พาร์ทเนอร์ มีอะไรอยู่เบื้องหลัง และได้พบว่าผู้บริหารบริษัททั้ง 3 คนที่มาที่ดาวนี้เป็นโจรสลัดอวกาศ มีนามว่า ไฮด์ เมบา และออกอน ซึ่งมีหัวหน้าคือ อิคารอส โดยบริษัทนี้ได้ทำกับดาวมาหลายดวงแล้ว และทำให้ดาวเหล่านั้นพบกับจุดจบ ซึ่งอารอนเองเป็นผู้รักษาความสงบเพียงคนเดียวบนดาวพ็อคคุรุ และไม่เชื่อในสิ่งที่บริษัท สเปซ พาร์ทเนอร์ ทำเพราะความหวังดีกับดาว เขาจึงได้สืบค้นต่อว่าเป้าหมายที่แท้จริงของพวกนี้คืออะไรโดยลักลอบเข้าไปพื้นที่ของบริษัท แต่ก็ถุกจับได้จึงต้องหนี และมาลงจอดฉุกเฉินที่โลก เมื่อได้เห็นฝีมือของโดราเอมอนและเพื่อน ๆ จึงขอความช่วยเหลือ เมื่อเล่าจบแล้วโดราเอมอนและเพื่อน ๆ จึงแนะนำตัวเอง แต่อารอนเข้าใจว่าผู้กำกับเบอร์เกอร์คือหัวหน้าหน่วยป้องกันกาแล็กซี่ เมื่อมาถึงดาว อารอนได้ลงจอดบริเวณใกล้กับพ็อคคุรุแลนด์ และซึเนะโอะได้เข้าไปในห้องควบคุม ทำให้พ็อคคุรุแลนด์ที่ปิดในเวลากลางคืนกลับมาเปิดอีก เมื่อเห็นว่าเป็นสวนสนุก ทุกคนจึงเข้าไปเล่น ยกเว้นโดราเอมอนที่ยังคิดว่ายังถ่ายหนังอยู่ จนยามของบริษัทขับยานเข้ามา และโจมตี ทุกคนต้องเข้าไปหลบซ่อนก่อน แต่ก็ใช้โอกาสนี้ในการแสดงโดยใช้พลังพิเศษของแต่ละคน แต่ก็โดนโจมตีและเจ็บจริงด้วย ผู้กำกับไม่รู้จักตัวละครเหล่านั้น และฝากบอกให้รอดกลับมาให้ได้ (เพราะเป็นของจริง) และแน่นอน ชุดแสดงของทุกคนก็เป็นของจริง สามารถใช้ความสามารถพิเศษได้ ทุกคนจึงแสดงความสามารถพิเศษออกมา แต่ของโนบิตะซึ่งเป็นการพันด้ายทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายไจแอนท์ต้องจัดการผู้ควบคุมยานที่เหลืออยู่เป็นคนสุดท้าย เมื่อกำจัดครบแล้วอารอนจึงพาทุกคนไปยังที่ซ่อนของเขาซึ่งเป็นโดมต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้าผา สามารถมองเห็นเมืองได้ทั้งหมด เมื่อมาถึงที่ซ่อนแล้วโดราเอมอนได้เอาฐานทัพลับต้นไม้ออกมาใช้ในการสร้างที่ซ่อนเพิ่มอีกชั้น ระหว่างที่อารอนออกไปเก็บผลไม้ในบริเวณใกล้ ๆ ทุกคนได้ตกลงกันว่าจะช่วยเหลือดาวพ็อคคุรุโดยใช้ของวิเศษและความสามารถของแต่ละคน ระหว่างที่ทุกคนนอน โนบิตะได้ออกมาหาอารอนที่นอนไม่หลับและออกมานั่งข้างนอก ซึ่งอารอนได้บอกว่าเขาเป็นคนที่คลั่งไคล้ความยุติธรรมจึงมาเป็นผู้รักษาความสงบของดาว จนถึงบัดนี้ยังต้องการที่จะไปช่วยใครอย่างเท่ แค่มากกว่าความเท่ หน้าที่คือต้องรักษาความสงบให้ประชาชน ใครที่มารุกรานจะต้องต่อสู้เพื่อเอารอยยิ้มของชาวดาวกลับคืนมา แค่ว่าเขาไม่มีพลังวิเศษใด ๆ แบบที่โนบิตะและเพื่อน ๆ มี โนบิตะเห็นแบบนี้จึงได้ให้คำมั่นสัญญากับอารอนอีกครั้งว่าจะปกป้องดาวพ็อคคุรุให้ ส่วนที่ยานของโจรสลัดอวกาศ ยามของพ็อคคุรุแลนด์ซึ่งเป็นลูกสมุนของ 3 โจรสลัดได้กลับมารายงานว่าอารอนได้พาพวกที่มีกำลังวิเศษมาด้วย และแน่นอน มันคือความผิดพลาด ไฮด์จึงปรึกษาอิคารอสว่าจะให้ทำอย่างไร เขาจึงสาปเป็นหิน และให้ฆ่าทุกคนที่มาขวางแผนการของเขา นั่นคือ ดาวฤกษ์ของดาวดวงนี้

สืบแผนการลับของสเปซ พาร์ทเนอร์[]

เช้าวันต่อมา ทุกคนได้เห็นดาวฤกษ์ของดาวดวงนี้ที่สวยงาม โดยดาวดวงนี้ชื่ออัลมาส ซึ่งเป็นดาวที่สะท้อนแสงจากดาวฤกษ์ดวงอื่นมายังดาวพ็อคคุรุ ซึ่งดาวพ็อคคุรุจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน ต่อมาทุกคนได้ประชุมแผนการว่าจะทำอย่างไร ซึ่งจากที่อารอนได้ข้อมูลมาตอนที่ลักลอบเข้าไปยังสเปซ ทาวเวอร์ หอคอยกลางทะเลสาบ ซึ่งได้รู้มาว่าจะทำอะไรสักอย่างในวันเปิดพ็อคคุรุแลนด์ ซึ่งเป็นวันต่อไป โดยแผนการในวันนี้ อารอนและโนบิตะจะเข้าไปยังสภาเพื่อเตือนว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย จากนั้นจะเข้าไปในสเปซ ทาวเวอร์ ส่วนไจแอนท์และซึเนะโอะจะเข้าไปยังสวนสนุก และโดราเอมอนกับชิซุกะจะเข้าไปยังโซนออนเซนที่อยู่อีกฝั่งของทะเลสาบ หลังจากที่ทุกคนกินอาหารเช้าเสร็จก็ออกเดินทาง โดยทุกคนจะมีอุปกรณ์ประจำตัวได้แก่ ผ้าคลุมล่องหน และ คอปเตอร์ไม้ไผ่ จากนั้นกดปุ่มที่หน้าห้องของแต่ละคนเพื่อเปลี่ยนห้องนอนเป็นแท่นส่งตัวออกไปจากที่พัก และเพื่อให้ได้อารมณ์มากขึ้นโดราเอมอนจึงนำวงดนตรีเสริมอารมณ์ออกมา เมื่อทุกคนออกมาแล้วโดยโนบิตะออกมาเป็นคนสุดท้าย ปรากฏว่ากางเกงของโนบิตะไปเกี่ยวกับลิฟต์ส่งตัว ทำให้ผู้กำกับเบอร์เกอร์ต้องกรอให้โนบิตะกลับไปยังที่พักและส่งตัวออกมาอีกครั้งเพื่อถ่ายซ่อม แต่คราวนี้แย่กว่าเดิม จากนั้นทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทำภารกิจที่ได้ตกลงเอาไว้ โดยอารอนได้ลงไปบอกทุกคนที่จะเตรียมการสำหรับพิธีเปิดพ็อคคุรุแลนด์ในวันต่อไปว่าให้ล้มเลิกแผนการนี้และบอกว่า สเปซ พาร์ทเนอร์ เป็นโจรสลัดอวกาศ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ ระหว่างนั้นมียามของพ็อคคุรุแลนด์เดินเข้ามา จึงต้องเอาตัวไปที่อื่น แต่ยามได้ปัดคอปเตอร์ไม้ไผ่ของโนบิตะออกทำให้ตกลงไปในบ่อน้ำทั้งคู่ และผ้าคลุมล่องหนและชุดฮีโร่ได้หลุดออกไปด้วย จนเขาลงมาถึงห้องใต้ดินลึกลับ ส่วนอารอน หลังจากที่คุยแล้วไม่ได้ผลจึงกลับมาหาโนบิตะ และพบว่าหายไปแล้ว และไปเจอด้ายจากชุดฮีโร่ที่บ่อน้ำ

ฝั่งออนเซน ได้เกิดปัญหาขึ้นว่าหลายวันที่ผ่านมาน้ำมีอุณภูมิลดลงไปอีก นั่นแสดงว่าเกิดสิ่งผิดปกติแน่นอน ส่วนไจแอนท์และซึเนะโอะเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกจนออกมายังเขตแห้งแล้ง และมีสิ่งกีดขวางปริศนามาขวางทำให้ทั้งสองตกจากเครื่องเล่น เมื่อพบก็เห็นว่าเป็นโจรสลัดอวกาศ (ออกอน) และผ้าคลุมล่องหนได้หลุดออกจากตัวไปแล้ว ทั้งสองคนไม่สามารถสู้ได้จึงถูกจับ ซึ่งไฮด์ได้เฝ้าดูผ่านมอนิเตอร์ เมื่อเห็นทางสะดวกแล้วไฮด์จึงลงไปต้อนรับชาวดาวเพื่อเฉลิมฉลองในการเปิดพ็อคคุรุแลนด์ที่จะมีขึ้นในวันต่อไป ฝั่งโนบิตะ ได้ตกลงมาที่ฐานทัพลับของสเปซ พาร์ทเนอร์ โดยอารอนได้ลงมาหาด้วย ซึ่งอารอนได้แกะรอยด้ายจากชุดฮีโร่ของโนบิตะจึงหาเจอ ระหว่างนั้น คนงานโจรสลัดอวกาศสองคนได้คุยถึงเรื่องเครื่องจักรภายใต้ สเปซ ทาวเวอร์ ว่าจะสูบพลังงานของดาวจากใต้ดินขึ้นมาและยิงออกไปนอกอวกาศตอนพิธีเปิด ซึ่งจะทำให้ดาวดวงนี้แห้งแล้งและล่มสลายไป โนบิตะอุทานออกมาจึงโดนจับได้ และเมบาออกมาดักเอาไว้ได้ และเพิ่งรู้สึกตัวว่าชุดฮีโร่หลุดออกไปแล้ว จึงโดนจับ และส่งไปอยู่กับไจแอนท์กับซึเนะโอะ ต่อมาหลังจากที่โดราเอมอนตรวจสอบความร้อนใต้ดาวที่ลดลง ชิซุกะเก็บเข็มกลัดฮีโร่ไว้ได้ นั่นหมายความว่าโนบิตะต้องทำหล่นแน่ ๆ จึงให้ผู้กำกับฉายภาพโนบิตะ วึ่งทั้ง 4 คนถูกโจรสลัดอวกาศจับตัวไว้หมดแล้ว และตำแหน่งที่ตั้งอยู่ใต้สเปซ ทาวเวอร์ จึงต้องรีบขุดอุโมงค์เพื่อเข้าไปช่วย ฝั่งอารอน ไฮด์ได้เข้ามาดูสภาพของอารอนและพวกที่โดนจับอยู่เพื่อขังไว้รอดูวาระสุดท้ายของดาว แต่แล้วก็มีการโจมตีจากใต้ดินโดยโดราเอมอนและชิซุกะ โดราเอมอนโดนอควาบีมของชิซุกะที่ใช้โจมตีไฮด์โดนกระจกของห้องขังแตก ระหว่างนี้ไฮด์ได้จับตัวชิซุกะเอาไว้ ผู้กำกับจึงฉายภาพปีศาจออกมาทำให้ไฮด์หนีไป วิ่งอยู่นานจนมารู้ว่าเป็นภาพเสมือนจริงจึงเจ็บใจที่โดนหลอก

ที่ยานของโจรสลัดอวกาศ ไฮด์เกือบโดนสาปเป็นหินเนื่องจากพ่ายแพ้แก่หน่วยป้องกันกาแล็กซี่ แต่เขาได้บอกข่าวดีแก่อิคารอสว่ายังอยู่ในแผนงาน และเครื่องจุดระเบิดยิงพลังงานได้เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งพลังงานจะเต็มเมื่อตอนที่เปิดพ็อคคุรุแลนด์ ซึ่งเครื่องนี้จะให้อิคารอสเป็นคนกด ซึ่งเป้าหมายจริง ๆ ของโจรสลัดอวกาศคือการนำแกรไฟต์ที่อยู่ในอัลมาสมาฟื้นพลังของอิคารอส ส่วนเพชรที่ปกคลุมอยู่รอบ ๆ จะให้ลูกน้องทั้งสามเก็บเอาไป ส่วนที่พักของอารอน ซึเนะโอะได้บอกกับทุกคนว่าไม่สามารถสู้กับโจรสลัดอวกาศได้ และพวกเขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น ไม่ใช่ฮีโร่ที่มีพลังวิเศษ และชวนให้ทุกคนกลับโลก แต่โนบิตะบอกว่าไม่สามารถทำได้เพราะดาวพ็อคคุรุกำลังจะล่มสลาย แน่นอนว่าคนที่จะช่วยดาวได้มีแค่พวกเขาเท่านั้น ซึ่งการที่หน่วยป้องกันกาแล็กซี่เข้ามาเสี่ยงอันตราย ทำให้อารอนมีความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับโจรสลัดอวกาศมากขึ้น และกล่าวว่าทุกคนคือฮีโร่ตัวจริงของอารอนและดาวพ็อคคุรุ แน่นอน ทุกคนจะต้องช่วยเหลือดาวดวงนี้จนวาระสุดท้าย

วาระสุดท้ายของดาวพ็อคคุรุ?[]

วันต่อมา ก่อนที่จะเปิดพ็อคคุรุแลนด์ โดยไฮด์เป็นผู้ที่คุมพิธีเปิดด้วย ในช่วงเวลานั้นเป็นช่วง 2 ชั่วโมงก่อนเปิด โดยจะมีเซอร์ไพรส์ในงานนี้ด้วย แต่เนื่องจากงานนี้เป็นงานต้มตุ๋นชาวดาว จึงไม่มีแขกมาร่วมพิธีแน่นอน โดยก่อนเปิดไฮด์จะต้องตรวจสอบอุปกรณ์ยิงลำแสงขั้นสุดท้าย ส่วนฝั่งโดราเอมอนและเพื่อน ๆ จะต้องทำการทำลายอุปกรณืใต้ดินของสเปซ ทาวเวอร์ก่อนที่จะทำการยิง และจะต้องจัดการโจรสลัดอวกาศทั้ง 3 ก่อนเพื่อให้งานราบรื่น โดยงานนี้ต้องใช้พลังของชุดฮีโร่ให้ถึงที่สุดเพื่อดึงท่าไม้ตายของแต่ละคนออกมาให้ได้ ระหว่างที่ทั้งหมดกำลังบินไปยังสเปซ ทาวเวอร์ อิคารอสได้เฝ้าดูพวกเขาอยู่ และมอบหมายให้เมบากับออกอนไปขัดขวาง โดยทั้งสองได้ปรากฏตัวออกมาเมื่อโดราเอมอนและเพื่อน ๆ มาถึงสเปซ ทาวเวอร์ เริ่มแรกเมบาจับตัวอารอนเอาไว้ และโนบิตะพยายามทำให้เมบาปล่อยตัว ส่วนไจแอนท์โจมตีออกอนโดยการถีบออกไป ส่วนเมบาถูกชิซุกะใช้อควาบีมดันออกไปที่อื่น และเข็มขัดของเมบาได้หลุดออกมาและไปเข้าล็อกตัวโนบิตะ ทำให้โนบิตะถูกวาร์ปเข้าไปในยานของโจรสลัดอวกาศ ในห้องของอิคารอส ส่วนคนอื่นไปจัดการเมบาและออกอนกันต่อ โดยชิซุกะจัดการเมบาด้วยไฮเปอร์ออนเซนบีม ซึ่งละลายเมบาเข้าไปกับน้ำ ไจแอนท์จัดการออกอนด้วยท่าไม้ตายมือแม่จอมพลัง ส่วนโดราเอมอน ซึเนะโอะ และอารอน ขุดดินเข้าไปในฐานทัพลัพใต้สเปซ ทาวเวอร์ ซึ่งไฮด์กำลังคุมอยู่และพลังงานใกล้ถึงเวลาที่จะปลดปล่อย ส่วนที่ยานของอิคารอส โนบิตะมีสกิลเคลื่อนที่เร็ว ทำให้หนวดของอิคารอสไม่สามารถทำอะไรได้ เขาเลยต้องออกมาจากไหและเผยร่างจริง โนบิตะเห็นร่างของอิคารอสที่กำลังโรยราจึงพยายามที่จะใช้พลังวิเศษของเขาในการกำจัดให้ได้ ส่วนฝั่งโดราเอมอน พวกเขาเจอไฮด์ที่กำลังขุดดินมาเจอเพื่อจับตัว พวกเขาจึงต้องถอยหนี แต่ซึเนะโอะสามารถนำของที่ไม่มีประโยชน์ในกระเป๋า 4 มิติมาสร้างเป็นยานได้เพื่อหลบหนี โดยพวกเขาโดนไฮด์ตามล่าจนยานของไฮด์โดนอควาบีมของชิซุกะและโดนไจแอนท์พังยาน ทำให้ร่วงลงไปในทะเลสาบ ส่วนฝั่งโนบิตะที่พยายามใช้พลังแต่ไม่ได้ผล จึงรวบรวมพลังขึ้นมาใหม่และสามารถจัดการอิคารอสได้สำเร็จจากความโกรธที่มีต่อโจรสลัดอวกาศ และยานของอิคารอสได้ออกจากไฮเปอร์สเปซเพื่อเตรียมยิงอัลมาส

ฝั่งโดราเอมอน ซึเนะโอะเจอแผนการของโจรสลัดอวกาศในกระเป่าของไฮด์ โดยแผนการคือ เมื่อปล่อยพลังงานของดาวพ็อคคุรุออกไปแล้วจะทำลายอัลมาส และโจรสลัดอวกาศจะได้เพชรไป และเครื่องยิงพลังงานจะยิงในอีก 10 นาที นอกจากนี้ ยังทำลายเครื่องยิงไม่ได้ด้วย และต้องเอาเครื่องจุดระเบิดในยานของอิคารอสมาเพื่อหยุดการเก็บพลังงานจากดาว ที่ยานของอิคารอสเอง โนบิตะได้ใช้เข็มขัดปีศาจทำให้กลับมาที่ดาวพ็อคคุรุได้ ส่วนอิคารอสที่ตายไปแล้วกลายเป็นปลาหมึก เมื่อกลับมาแล้วโนบิตะบอกว่าเมื่อกี้อยู่กับอิคารอสทุกคนจึงต้องเกาะตัวโนบิตะเพื่อวาร์ปเข้าไปในยานลำนั้น ซึ่งทุกคนต้องรีบหาเครื่องจุดระเบิดในยานนี้มาให้ได้ โดยอิคารอสร่างปลาหมึกได้นำเครื่องจุดระเบิดมาใช้เรียบร้อย และเครื่องยิงได้ทำงานเรียบร้อย พลังงานจากดาวพ็อคคุรุถูกใช้กับเครื่องยิงและดาวอัลมาสได้แตกสลาย โดราเอมอนจึงต้องใช้ไฟฉายแช่แข็งเพื่อแช่แข็งลำแสงและดาวอัลมาสที่กำลังแตกสลาย และดาวพ็อคคุรุได้อยู่ในสภาพที่มืดมิดและหนาวเนื่องจากไม่มีแสงสะท้อนจากอัลมาสแล้ว แต่โนบิตะนึกขึ้นได้ว่าสามารถใช้ผู้กำกับเบอร์เกอร์ทำให้กรอเวลาเฉพาะอัลมาสกับพลังงานของดาวพ็อคคุรุกลับไป ทำให้ดาวดวงนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และการที่ดาวดวงนี้รอดมาได้ก็เพราะการที่อารอนรู้แผนการของโจรสลัดอวกาศ และแน่นอน โนบิตะและอารอนได้ปกป้องรอยยิ้มของทุกคนดังที่ได้ให้คำสัญญาแล้ว กลับมาที่โลก โนบิตะก็ได้ให้รอยยิ้มแก่ทุกคนโดยการสอนเด็กแถวบ้านเล่นพันด้ายในท่าไม้ตายของเขา

ตัวละคร[]

หน่วยป้องกันกาแล็กซี่[]

ตัวละครในเดอะมูฟวี่[]

ตัวละครอื่นๆ[]

ภาพรวม[]

ภาพยนตร์ชุดนี้เป็นโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ลำดับที่ 35 แล้ว ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องใหม่ในรอบสองปีหลังจากที่ตอนก่อนหน้าเป็นตอน โดราเอมอน: โนบิตะล่าโจรปริศนาในพิพิธภัณฑ์ของวิเศษ ซึ่งธีมภาพยนตร์ในครั้งนี้คือผจญภัยในอวกาศ ที่พวกโดราเอมอนและเพื่อนๆจะต้องกลายเป็นฮีโร่และปราบเหล่าโจรสลัดอวกาศ

นอกจากนี้ภาพยนตร์ชุดนี้ยังเป็นผลงานครบรอบ 35 ปีของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์และฉบับการ์ตูนทีวีอีกด้วย

ของวิเศษภายในเรื่อง[]

เพลงประกอบ[]

เพลงเปิด  : Yume Wo Kanaete Doraemon

  • ศิลปิน : ตัวละครหลักทั้ง 5 คน
  • Wazabi Mizuta (โดราเอมอน)
  • Megumi Ohara (โนบิตะ)
  • Yumi Kakazu (ชิซุกะ)
  • Seki Tomokazu (ซึเนโอะ)
  • Subaru Kimura (ไจแอนท์)

เพลงแทรก :Yume Wo Kanaete Doraemon เวอร์ชั่นประสานเสียง

  • ศิลปิน : วงประสานเสียงเด็ก ซุงินามิ

เพลงแทรก : Miracle Ginga Bouentai no Tema (ミラクル銀河防衛隊のテーマ)

  • ศิลปิน : วงประสานเสียงเด็ก ซุงินามิ

เพลงประจำตัวของธีมหน่วยป้องกันกาแล็คซี่

เพลงปิด : 360° (360 องศา)

  • ศิลปิน : miwa

วีดีโอ[]

ตัวอย่างภาพยนตร์_โดราเอมอน_เดอะ_มูฟวี่_ตอน_โนบิตะ_ผู้กล้าแห่งอวกาศ

ตัวอย่างภาพยนตร์ โดราเอมอน เดอะ มูฟวี่ ตอน โนบิตะ ผู้กล้าแห่งอวกาศ

ตัวอย่าง เสียงไทย

รูปภาพ[]

ภาพยนตร์รุ่น 1979
ภาพยนตร์รุ่น 2005
Advertisement